วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2553

ธรณีวิทยาประเทศไทย


ธรณีวิทยา





ธรณีวิทยา เป็นวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับโลก สสารต่าง ๆ ที่เป็นส่วนประกอบของโลก เช่น แร่ หิน ดินและน้ำ รวมทั้งกระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก ที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ ตั้งแต่กำเนิดโลกจนถึงปัจจุบัน เป็นการศึกษาทั้งในระดับโครงสร้าง ส่วนประกอบทางกายภาพ เคมี และชีววิทยา ทำให้รู้ถึงประวัติความเป็นมา และสภาวะแวดล้อมในอดีตจนถึงปัจจุบัน ศึกษาปัจจัยต่าง ๆ ทั้งภายใน และภายนอกที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นผิว วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ตลอดจนรูปแบบ และวิธีการนำเอาทรัพยากรธรรมชาติ มาใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนอีกด้วย

นักธรณีวิทยาศึกษาพบว่าโลกมีอายุประมาณ 4,500 ล้านปี (4.5x109 ปี) และเห็นตรงกันว่าเปลือกโลกแยกออกเป็นหลายแผ่น เรียกว่าแผ่นเปลือกโลก แต่ละแผ่นเคลื่อนที่อยู่เหนือเนื้อโลกหรือแมนเทิลที่มีสภาวะกึ่งหลอมเหลว เรียกกระบวนการนี้ว่าการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก นอกจากนี้ นักธรณีวิทยายังทำหน้าที่ระบุตำแหน่งและจัดการกับทรัพยากรธรรมชาติ เช่น แหล่งหิน แหล่งแร่ แหล่งปิโตรเลียมเช่น น้ำมันและถ่านหิน รวมทั้งโลหะอย่างเหล็ก ทองแดง และยูเรเนียม

วิชาธรณีวิทยา มีความเกี่ยวข้องกับหลากหลายสาขาวิชา เช่น ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา คณิตศาสตร์ มีการบูรณการความรู้จากหลากหลายวิชา เพื่อวิเคราะห์หาคำตอบเกี่ยวกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นบนโลก โดยสามารถแบ่งออกเป็นหลากหลายสาขาวิชา เช่น ธรณีวิทยากายภาพ (Physical Geology) ธรณีวิทยาโครงสร้าง (Structural Geology) ธรณีวิทยาแปรสัณฐาน (Geotectonics, Tectonics) ตะกอนวิทยา (Sedimentology) ธรณีสัณฐานวิทยา (Geomorphology) ธรณีเคมี (Geochemistry) ธรณีฟิสิกส์ (Geophysics) ธรณีอุทกวิทยา (Geohydrology) บรรพชีวินวิทยา (Paleontology) เป็นต้น




สรุปเนื้อหาบบที่ 3 ความรู้เกี่ยวกับธรณีวิทยา

เนื้อหาจะประกอบไปด้วย

1.หินและแร่ หิน

คือ ก้อนวัตถุแข็งที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของเปลือกโลก ประกอบด้วยแร่ที่เกาะรวมตัวกันอยู่ หินแต่ละชนิดมีสมบัติทางกายภาพแตกต่างกัน เช่น เนื้อ สี โครงสร้าง วิธีการเกิด และความแข็งแกร่งทนต่อการกัดเซาะพังทลาย เป็นต้น นักธรณีวิทยาแบ่งหินตามการเกิดหรือวิธีการเกิดออกเป็น 3 ประเภท คือ หินอัคนี หินตะกอน หินแปร แร่(Minerals) แร่เป็นสารประกอบอินทรีย์ หรือ ธาตุที่เกิดโดยธรรมชาติ รวมทั้งสารประกอบอินทรีย์บางอย่าง เช่น ถ่านหินและน้ำมัน ที่พบได้ทั้งในดิน ในหิน ในน้ำและในอากาศ แร่พบในลักษณะที่เป็นธาตุ ได้แก่ ทองคำ ทองคำขาว และเงิน ส่วนใหญ่แล้วจะพบในรูปของสารประกอบอนินทรีย์ เช่น สารประกอบออกไซด์ ( มีออกซิเจนเป็นองค์ประกอบอยู่ ) สารประกอบซัลไฟด์ ( มีกำมะถันเป็นองค์ประกอบ )และสารประกอบคาร์บอเนต แร่เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วหมดไป สามารถจำแนกได้ 4 ประเภท




1. แร่โลหะและแร่อโลหะ จัดเป็นแร่ที่พบอยู่ในหินทั่วๆไป
2. แร่รัตนชาติ เป็นแร่อโลหะที่มีรูปผลึกที่สามารถนำมาเจียระไนหรืขัดมันให้เกิดความสวยงาม
3. แร่กัมมันตรังสี เป็นแร่ที่มีสถาพของนิวเคลียสไม่เสถียรจะมีการปล่อยรังสีออกจากอะตอมอยู่ตลอดเวลาและเมื่อสิ้นสุดการสลายตัวจะได้ธาตุใหม่เกิดขึ้น
4. แร่เชื้อเพลิง เป็นแร่ที่จัดว่าเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญต่อเศรษฐกิจ

ทฤษฎีทวีปเลื่อน



ในปี ค.ศ.1915 นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันชื่อ alfred Wegenerได้เสนอสมมติฐานทวีปเลื่อนขึ้น และ ได้รับการยอมรับในปี ค.ศ.1940 สมมติฐาน กล่าวไว้ว่า เมื่อราว 250 ล้านปีก่อน หลักฐานที่เชื่อว่าแผ่นทวีปเคลื่อนที่นี้คือ 1.ในปัจจุบันได้พบชนิดหิน ที่เกิดในสภาวะแวดล้อม เดียวกัน แต่อยู่คนละทวีปซึ่งห่างไกลกันมากเป็นหินอายุ เดียวกัน 2.หินที่อยู่ต่างทวีปกันมีรูปแบบสนามแม่เหล็กโลกโบรา 3.คล้ายคลึงกันขอบของทวีปสามารถเชื่อมตัวประสาน แนบสนิทเข้าด้วยกันได้


วิวัฒนาการของลำน้ำ



• ระยะปฐมวัย(Youth)

• ระยะมัชฌิมวัย(Maturity)

• ระยะปจฉิมวัย(Old)

จากเนื้อหาทั้งหมดเราสรุปได้ว่าธรณ๊วิทยาพื้นฐานตอนเกิดสิ่งไม่มีชีวิตเช่น พวกหินชนิดต่าง การวิวัฒนากาของน้ำ และ ทฤษฎีต่างๆ จนวิวัฒนาการจนกายมาเป็นพวกสัตว์มีชีวิตตามอายุกาลของการพัฒนาจนเป็นธรณีวิทยาที่ควรศึกษาในปจจุบัน


สรุปเนื้อหาบบที่ 4 ธรณีวิทยาประเทศไทย




ธรณีวิทยาประเทศไทย เนื้อหาในบบที่ 4 เนื้อหาดังต่อไปนี้

ตารางทางธรณีวิทยา




ลำดับชั้นหินในประเทศไทย แบ่งหินออกเป็นยุคต่างๆ โดยใช้วิธีการจัดลำดับตามอายุกาล ประเทศไทยมีหิตั้งแต่อายุพรีแคมเบรียน(อายุมากสุด)จนถึงอายุควอเตอร์นารี (Quaternary) หินที่พบ หินตะกอน(Sedimentary rocks) หินแปร(Metamorphic rocks)และ หินอัคนี (Igneous rocks) ธรณีวิทยาภาคเหนือและภาคตะวันตกตอนบน รวมเอาท้องที่แถบภูเขาซึ่งอยู่ทางตะวันตก ตะวันตกเฉียงเหนือและเหนือกรุงเทพฯเข้าด้วยกัน เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารต่างๆ แบ่งออกได้ 2 เขต 1.เขตผีปันน้ำ คลุม แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน แบ่งทางน้ำไหลไป 3 ทาง 1.ทิศเหนือไหลลงแม่น้ำโขง 2.ทางทิศใต้และทิศตะวันออกไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา 3.ด้านตะวันตกไหลลงแม่น้ำสาละวินในพม่า เป็นต้นแม่น้ำสำคัญ 4 สาย ได้แก่ แม่น้ำปิง วัง ยม และน่าน และทั้งหมดไหลมารวมกันเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ราบลุ่มภาคกลางหรือที่ราบลุ่มเจ้าพระยา บริเวณที่ราบลุ่มนี้อยู่ตอนกลางของประเทศครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของที่ราบลุ่มเจ้าพระยาตอนบนและตอนล่างซึ่งเกิดจากการกระทำของแม่นํ้าทั้งหมดที่ไหลลงสู่อ่าวไทย ประกอบด้วยแม่นํ้าสายสำคัญคือ แม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาที่ไหลจากภูเขาสูงทางภาคเหนือของประเทศ โดยพัดพาตะกอนมาสะสมตัวในพื้นที่ตอนล่างที่เคยอยู่ใต้ระดับน้ำทะเลมาก่อนจนกลายเป็นพื้นที่ราบกว้างใหญ่โผล่เหนือระดับน้ำทะเล ที่ราบลุ่มภาคกลางตอนบน ขอบเขตของบริเวณที่ราบลุ่มภาคกลางตอนบนครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของจังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร ต่อเนื่องลงมาจนกระทั่งถึงบริเวณปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ ที่ซึ่งแม่น้ำปิง วัง ยม และน่าน ไหลมาบรรจบกันเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ราบลุ่มภาคกลางตอนล่าง ครอบคลุมพื้นที่ตอนล่างของจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่บริเวณ ปากน้ำโพเรื่อยลงมาจนถึงปากแม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดสมุทรปราการ ธรณีวิทยาทั่วไป เกิดจากการเคลื่อนไหวของรอยเลื่อนใหญ่ ได้แก่ รอยเลื่อนแม่ปิง(ต่อ เลยไปเกือบเชื่อมกับรอยเลื่อนเมย) รอยเลื่อนอุตรดิตถ์ (น้ำปาด) และรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ ในยุคครีเทเชียสตอนปลายถึงยุคเทอร์ เชียรี ซึ่งต่อเนื่องจากการเปิดตัวของอ่าวไทยทางใต ้และการเกิดแอ่ง เทอร์เชียรีในบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันตกตอนบนและตามด้วย การเกิดรอยเลื่อนในแนวเหนือ-ใต้ ลำดับชั้นหินทั่วไป หินมหายุคพาลีโอโซอิกตอนล่าง เป็นหินที่เชื่อว่าแก่ที่สุดในบริเวณนี้ได้แก่ หินยุคไซลูเรียน-ดีโวเนียน ซึ่งโผล่ให้เห็นได้ตั้งแต่บริเวณริมแม่น้ำโขงประมาณ กม.15ถนนสายอำเภอปากชม-อำเภอสังคม ต่อเนื่องลงมาทางใต้จนถึง ด้านตะวันตกของบ้านโชคชัย อำเภอน้ำโสม จังหวัดอุดรธานีหินมหายุคพาลีโอโซอิกตอนบน ประกอบด้วยหินยุคคาร์บอนิเฟอรัส พบแผ่กระจายกว้างขวางในเขตจังหวัดเลย ตั้งแต่อำเภอปากชมต่อเนื่องลงไปทางใต้จนถึงอำเภอวังสะพุงและทางตะวันออกเฉียงเหนือของผาเดิ่น หินคาร์บอนิเฟอรัส ตอนล่าง ส่วนใหญ่ประกอบด้วยหินดินดาน หินทราย หินทรายแป้ง หินทรายเนื้อ ปนกรวด และถ่านหิน นอกจากนั้นยังมีหินปูนสีเทาและเทาดำเป็นเลนส์แทรกในชั้นหินดินดาน ส่วนหินยุคคาร์บอนิเฟอรัสตอนบน ประกอบด้วยหินดินดาน หินทราย และหินทรายแป้ง บางแห่งพบว่ามีชั้นหินสีแดงจำพวกหินดินดานซึ่งมีซากพืชปนอยู่ด้วย บริเวณอำเภอชนแดนจังหวัดเพชรบูรณ์ ชั้นหินส่วนใหญ่เป็นหินปูน พบหินทรายและหินทรายแป้งบ้างบางบริเวณ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น